แผนงานและกลยุทธ์ในการแข่งขันในปี 2554
ในปี 2554 นี้ ทางบริษัทได้คาดการณ์ว่าต้นทุนต่างๆโดยเฉพาะทางด้านพลังงาน จะมีการปรับตัวสูงขึ้น เพราะฉะนั้นทางบริษัทฯจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการมุ่งมั่นพัฒนาที่จะควบคุมต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ ประกอบกับการเพิ่มศักยภาพของจุดขายทั้งหมดที่มีอยู่ รวมไปถึงการเพิ่มคุณค่าให้สินค้า โดยคำนึงถึงกำไรขั้นต้นเป็นหลัก เป้าหมายโดยรวมแล้วสรุปได้ว่า
• รักษาระดับของกำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 44%-45%
• ยอดขายโดยรวมเติบโตขึ้น 10% จากปี 2553
• เปิดสาขาเพิ่ม 10-15 สาขาภายในปี 2554
• ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 2 เตา
• ลดของเสียให้ต่ำกว่า 1%
จากภาวะตลาดที่ซบเซาในครึ่งปีหลังของปี 2553 เนื่องมาจากสภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวัดทำให้การก่อสร้างต้องชะลอตัวลงในหลายพื้นที่ เป็นเหตุผลให้หลายๆผู้ผลิตต้องหันมากดดัราคาลงด้วยการลด แลก แจก แถม ในขณะที่ต้นทุนต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านพลังงานเริ่มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2554สำหรับผลกระทบกับไดนาสตี้เองแล้ว ทางบริษัทฯได้ชะลอการเปิดเตาใหม่ 2 โครงการ ซึ่งในเดือนมกราคมปี 2554 ได้ดำเนินการเปิดไปแล้วหนึ่งเตา ซึ่งสามารถให้ผลผลิประมาณ 250,000 ตารางเมตร/เดือน และจะเปิดเตาที่สองในเดือนกรกฎาคม 2554 ใช้งบลงทุนประมาณ 280 ล้านบาท สามารถผลิตได้ประมาณ 285,000 ตารางเมตร/เดือน ซึ่งจากการเปิดเตาทั้งสองเตาแล้ว จะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จาก Economy of Scale
ในด้านการตลาด
- ความต้องการของกระเบื้องนั้น ตลาด ณ ปัจจุบันหันมานิยมใช้กระเบื้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เตาเผาที่ทางบริษัทฯมีอยู่สามารถเปลี่ยนขนาดได้ตามต้องการ และกระเบื้องขนาดใหญ่นี้ยังสามารถผลักให้ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงขึ้น อีกทั้งมีกำไรขั้นต้นที่ดีกว่าด้วย
- การเปิดสาขาเพิ่ม 10-15 สาขาในปีนี้สามารถทำให้ทางบริษัทฯมีช่องทางในการขายเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นส่วนที่สามารถดึงส่วนแบ่งทางการตลาดอีกด้วย
- นโยบายในการเจาะกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยมีการรับสมัครสมาชิกเพื่อสนับสนุนให้มีการกระตุ้นการซื้อที่ต่อเนื่องในด้านต้นทุนเนื่องจากบริษัทฯได้คาดการณ์ว่า ต้นทุนด้านพลังงานโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตจะเพิ่มขึ้นในปีนี้รวมไปถึงต้นทุนของสารเคมีต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทางบริษัทฯมีนโยบายควบคุมต้นทุนดังนี้
- การขยายกำลังการผลิตที่จะได้รับผลประโยชน์ จาก Economy of scale ที่ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง
- การวิจัยพัฒนาส่วนผสมของเนื้อกระเบื้องซึ่งสามารถลดอุณหภูมิที่ใช้ในการเผา ซึ่งส่งผลให้การใช้ก๊าซธรรมชาติลดลง
- การวิจัยพัฒนาส่วนผสมของสี และ สารเคมีต่างๆ และการใช้วัตถุดิบสารเคมีที่มีราคาถูกกว่ามาทดแทน
- การคิดค้นใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อมาใช้ในการลดการใช้สารเคมี
- การลดของเสียให้ต่ำกว่า 1% จาก 1.13% ในปี 2553
ทางบริษัทฯมีนโยบายการปรับปรุงการขนส่งโดยใช้รถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมไปถึงการวางแผนเส้นทางในการขนส่งโดยใช้หลักระยะทางที่สั้นที่สุด บวกกับหลักของ ระยะทางที่ถูกที่สุด ซึ่งจะสามารถควบคุมต้นทุนในการส่งของได้ส่วนหนึ่ง
กำลังการผลิต
กำลังการผลิตและ % การใช้กำลังการผลิตในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมาของบริษัทและบริษัทย่อยมีดังนี้
ปริมาณการผลิต | |||||||||||||
บริษัท / ผลิตกระเบื้อง | (ล้านตารางเมตรต่อปี) | ||||||||||||
2553 | 2552 | 2551 | |||||||||||
บริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด(มหาชน) - กำลังการผลิต | 23 | 21 | 20 | ||||||||||
(ผลิตเฉพาะกระเบื้องเซรามิคปูพื้น) กำลังผลิตร้อยละ | 97% | 93% | 87% | ||||||||||
บริษัท ไทล์ ท้อป อินดัสตรี้ จำกัด(มหาชน)- กำลังการผลิต | 28 | 24 | 22 | ||||||||||
(ผลิตกระเบื้องเซรามิคปูพื้นและบุผนัง ) กำลังผลิตร้อยละ | 99% | 93% | 88% | ||||||||||
(ของกำลังการผลิตปกติ) รวมกำลังการผลิต | 51 | 45 | 42 |
ความคิดเห็นของผู้เขียน
ต้นทุนการผลิต ก๊าซ NG ที่พุ่งสูงขึ้นยังเป็นปัจจัยลบต่อกำไรขั้นต้นของบริษัท อีกทั้งต้นทุนในการขนส่งที่ต้องสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน จึงเห็นได้ว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2554 บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเพียง 0.89 ซึ่งมากกว่าไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 เพียง 1% และการเพิ่มกำลังการผลิตที่ดูแล้วเดินเครื่องเกือบ 100% แล้ว ยังถือว่าอาจจะเป็นจุดสูงสุดของกำลังการผลิตแ้้ล้ว ซึ่งอาจจะต้องมองแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทย ว่ายังเติบโตไปในแนวทางที่ดีเพียงใด ที่ทำให้มี demand มากกว่า supply ที่อยู่ในตอนนี้ จึงทำให้การเพิ่มกำลังการผลิตเห็นผล และรับรู้รายได้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น