ดุลการชำระเงิน = ดุลที่เงินไหลเข้าประเทศ ยิ่งเป็น + = แสดงว่าเงินต่างประเทศไหลเข้า ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งกระทบการส่งออก ดังนั้นการเลือกหุ้นส่งออกควรที่จะดูงบดุลระดับมหภาคด้วย
ดุลการชำระเงิน = บัญชีเดินสะพัด + บัญชีเงินโอน/รับบริจาค + บัญชีทุน
บัญชีเดินสะพัด = ดุลการค้า(=ส่งออก - นำเข้า) + ดุลบริการ(=การท่องเที่ยว) *สำคัญมากเพราะเป็นบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในการชำระเงิน ถ้าหากเป็น + แสดงว่าค่าเงินจะแข็ง
บัญชีเงินโอน/รับบริจาค = บริษัทต่างประเทศที่ลงทุนในต่างประเทศ และโอนปันผลให้บริษัทแม่ ทำให้ยอดเงินเข้าประเทศที่เป็นประเทศแม่
ซึ่งแน่นอนถ้าหากเรื่องดุลการชำระเงินของประเทศไหนเป็นบวกมากๆ ก็ย่อมทำให้อีกประเทศต้องขาดดุลการชำระเงิน ตัวอย่างเช่น อเมริกา กรีซ และยุโรปที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ขาดดุลการชำระเงิน และประเทศที่ดุลการชำระเงินที่เห็นได้ชัดคือ จีน ซึ่งทางประเทศธุรกิจก็ยังเน้นการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้นจึงมีการตรึงค่าเงินหยวนให้อ่อนค่า ซึ่งขัดกลับหลักที่ว่า เพราะจีนได้ประโยชน์จากการส่งออกเป็นจำนวนมาก และยังได้เปรียบจากค่าเงินอีก ดังนั้นจึงเป็นที่มาให้ประเทศฝั่งยุโรปกดดันให้จีนแข็งค่าเงินหยวน เพื่อให้เป็นไปตามกลไกของค่าเงิน
ดังนั้นการลงทุนควรจะมองระดับมหภาคด้วยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น